การทำการตลาดสำหรับโรงแรมเล็กเพิ่มยอดจองโรงแรมโดยเฉพาะโรงแรมที่มีจำนวนห้องพักน้อยนั้นเป็นความท้าทายที่ต้องการการวางแผนและกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพจาก ที่ปรึกษาโรงแรม บทความนี้จะแนะนำแนวทางการทำการตลาดสำหรับโรงแรมเล็กในด้านต่างๆ ตั้งแต่การรู้จักตัวเอง การตั้งเป้าหมาย และการเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสม จนถึงการเลือกใช้เครื่องมือทางการตลาดที่เหมาะสม เพื่อให้การบริหารโรงแรม ของคุณเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
รู้จักโรงแรมของตัวเองและจุดยืนของตัวเองในตลาด
โรงแรมของคุณมีจุดเด่นยังไง
การระบุและเน้นจุดเด่นของโรงแรมคือกุญแจสำคัญในการทำการตลาด โรงแรมเล็กอาจมีจุดเด่นในด้านต่างๆ ดังนี้:
การบริการที่เป็นกันเอง: ลูกค้าจะรู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว
การตกแต่งที่เป็นเอกลักษณ์: สร้างความรู้สึกเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร
สถานที่ตั้งที่สะดวกสบาย: ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวหรือสถานที่สำคัญ
ความเป็นส่วนตัว: บรรยากาศเงียบสงบและเป็นส่วนตัวมากกว่าโรงแรมใหญ่
ประสบการณ์เฉพาะเจาะจง: เช่น การจัดกิจกรรมพิเศษหรือทัวร์เฉพาะที่มีเพียงที่เดียว
โรงแรมมีจุดด้อยอะไรบ้าง เพื่อที่เราจะเข้าไปปรับให้เห็นน้อยที่สุด
การรู้จุดด้อยของโรงแรมจะช่วยให้สามารถปรับปรุงและลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นได้ ตัวอย่างจุดด้อยและวิธีการปรับปรุง:
จำนวนห้องพักน้อย: เสนอแพ็คเกจพิเศษหรือประสบการณ์พิเศษที่โรงแรมใหญ่ไม่มี
สิ่งอำนวยความสะดวกน้อย: เพิ่มบริการพิเศษ เช่น บริการรับส่งสนามบิน บริการอาหารเช้าในห้องพัก หรือกิจกรรมภายในโรงแรม
พื้นที่ห้องพักเล็ก: ใช้การตกแต่งที่ทำให้ห้องดูกว้างขึ้น และเน้นการจัดห้องอย่างมีประสิทธิภาพ
ขาดสิ่งอำนวยความสะดวกบางอย่าง: เช่น ฟิตเนส หรือสระว่ายน้ำ อาจใช้การตกแต่งและบริการที่ดีแทน
โรงแรมอยู่ในเกณฑ์กี่ดาว และมีคุณภาพมากน้อยแค่ไหน
การรู้ว่าตัวเองอยู่ในเกณฑ์โรงแรมกี่ดาวจะช่วยให้สามารถวางแผนการตลาดได้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย โรงแรมเล็กที่อาจไม่ได้มีการจัดอันดับดาวอย่างเป็นทางการ ควรเน้นไปที่การบริการและประสบการณ์ของลูกค้าแทนการยึดติดกับจำนวนดาว
ตั้งเป้าหมาย
เป้าหมายของโรงแรมคืออะไร เช่นต้องการเป็นที่รู้จัก หรือทำยังไงก็ได้ขอแค่มียอดขาย
การตั้งเป้าหมายชัดเจนจะช่วยให้สามารถวางแผนการตลาดได้ง่ายขึ้น ตัวอย่างเป้าหมาย:
เพิ่มการรับรู้แบรนด์: ทำให้โรงแรมเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น
เพิ่มยอดขาย: เพิ่มจำนวนการจองห้องพักและยอดขายโดยรวม
เพิ่มคะแนนรีวิว: ได้คะแนนรีวิวจากลูกค้ามากขึ้นบนแพลตฟอร์มต่างๆ
เพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า: ปรับปรุงบริการและประสบการณ์ให้ดียิ่งขึ้น
ในสามเดือนจะต้องมีช่องทางอะไรบ้าง
วางแผนช่องทางการตลาดที่จะใช้ในระยะเวลา 3 เดือน ตัวอย่างเช่น:
สื่อสังคมออนไลน์: ใช้ Facebook, Instagram, Twitter และแพลตฟอร์มอื่นๆ ในการโปรโมท
SEO: ปรับแต่งเว็บไซต์ให้ติดอันดับการค้นหาใน Google
โฆษณาออนไลน์: ใช้ Google Ads และ Facebook Ads เพื่อเพิ่มการเข้าถึง
ความร่วมมือกับเอเย่นต์ท่องเที่ยว: ร่วมมือกับบริษัททัวร์และเอเย่นต์ท่องเที่ยวเพื่อเพิ่มช่องทางการจอง
ในสามเดือนยอดขายจะเติบโตกี่ %
ตั้งเป้าหมายทางการเงินให้ชัดเจน เช่น:
เพิ่มยอดขาย 20%: เปรียบเทียบกับยอดขายในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
เพิ่มอัตราการเข้าพัก 15%: เปรียบเทียบกับอัตราการเข้าพักในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
ในสามเดือนจะมีคนรู้จักมากน้อยแค่ไหน
วัดผลการรับรู้แบรนด์โดยการใช้ตัวชี้วัดต่างๆ เช่น:
จำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์: เพิ่มขึ้นจากการทำ SEO และโฆษณาออนไลน์
การติดตามบนสื่อสังคมออนไลน์: จำนวนผู้ติดตามและการมีส่วนร่วมเพิ่มขึ้น
การสำรวจความคิดเห็นของลูกค้า: สำรวจลูกค้าว่ารู้จักโรงแรมของคุณจากช่องทางใดบ้าง
เลือกกลยุทธ์การตลาดที่เข้ากับโรงแรม
การทำ Content เพื่อให้คนรู้จักโรงแรม
การสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจและมีคุณค่าสำหรับกลุ่มเป้าหมาย เช่น:
บทความเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวในบริเวณใกล้เคียง: ช่วยให้ลูกค้ารู้สึกว่าโรงแรมของคุณเป็นตัวเลือกที่ดีในการเข้าพัก
รีวิวจากลูกค้า: เพิ่มความน่าเชื่อถือและดึงดูดลูกค้าใหม่
เคล็ดลับการเดินทาง: ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเดินทางและการพักผ่อน
การยิง Ads เพิ่มการเข้าถึง
การใช้โฆษณาออนไลน์สามารถช่วยเพิ่มการเข้าถึงลูกค้าใหม่ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรเลือกกลุ่มเป้าหมายที่ตรงกับโรงแรมและใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า เช่น:
Google Ads: โฆษณาบนการค้นหาของ Google และเว็บไซต์พันธมิตร
Facebook Ads: โฆษณาบน Facebook และ Instagram เน้นการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ
การถ่ายภาพเพื่อทำการโปรโมท
การใช้ภาพถ่ายคุณภาพสูงเพื่อโปรโมทโรงแรมเป็นสิ่งสำคัญ ภาพถ่ายที่สวยงามและน่าประทับใจสามารถดึงดูดความสนใจของลูกค้าได้ดี ควรจ้างช่างภาพมืออาชีพถ่ายภาพโรงแรมในมุมมองต่างๆ เช่น:
ห้องพัก: แสดงให้เห็นถึงความสะดวกสบายและการตกแต่งที่สวยงาม
พื้นที่ส่วนกลาง: แสดงบรรยากาศของโรงแรม
สิ่งอำนวยความสะดวก: แสดงบริการที่มีอยู่ เช่น ร้านอาหาร สปา หรือสระว่ายน้ำ
การจัดโปรโมชันเพื่อส่งเสริมการขาย
การจัดโปรโมชันพิเศษสามารถกระตุ้นยอดขายและดึงดูดลูกค้า ตัวอย่างโปรโมชัน:
ส่วนลดสำหรับการจองล่วงหน้า: ลดราคาสำหรับลูกค้าที่จองล่วงหน้า
แพ็คเกจพิเศษสำหรับวันหยุดยาว: เสนอแพ็คเกจที่รวมที่พัก อาหาร และกิจกรรม
โปรโมชั่นนาทีสุดท้าย: เสนอส่วนลดพิเศษสำหรับการจองนาทีสุดท้าย
การหา KOL หรือคนมีชื่อเสียงเข้าไปโปรโมท
การใช้ผู้มีอิทธิพลในสื่อสังคมออนไลน์ (KOL) หรือบุคคลที่มีชื่อเสียงเข้ามาช่วยโปรโมทโรงแรม สามารถเพิ่มการรับรู้แบรนด์และความน่าเชื่อถือของโรงแรม เช่น:
เชิญบล็อกเกอร์หรืออินฟลูเอนเซอร์เข้าพัก: ให้พวกเขาแชร์ประสบการณ์ผ่านบล็อกหรือสื่อสังคมออนไลน์
จัดกิจกรรมพิเศษร่วมกับ KOL: เช่น งานเปิดตัวหรือปาร์ตี้พิเศษ
ลงมือทำตามแผนที่วางไว้
หลังจากวางแผนและเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสม ควรลงมือทำตามแผนที่วางไว้อย่างเคร่งครัด การติดตามผลและปรับปรุงตามสถานการณ์จริงจะช่วยให้การทำการตลาดมีประสิทธิภาพและได้ผลลัพธ์ตามที่คาดหวัง ตัวอย่างการดำเนินการ:
สร้างเนื้อหาและโพสต์ลงสื่อสังคมออนไลน์ตามตารางเวลา: เช่น การโพสต์บทความใหม่ทุกสัปดาห์ การแชร์ภาพถ่ายและวิดีโอทุกวัน
จัดการโฆษณาออนไลน์: ตรวจสอบและปรับแต่งโฆษณาให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายและงบประมาณ
ตรวจสอบและตอบกลับความคิดเห็นของลูกค้า: ทั้งบนเว็บไซต์รีวิวและสื่อสังคมออนไลน์
จัดกิจกรรมพิเศษและโปรโมชันตามที่วางแผนไว้: เช่น งานเปิดตัวหรือโปรโมชันพิเศษในช่วงวันหยุด
สรุปแล้ว การทำการตลาดสำหรับโรงแรมเล็กนั้นจำเป็นต้องมีการวางแผนอย่างรอบคอบและเลือกใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสม การรู้จักตัวเอง ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน และลงมือทำตามแผนที่วางไว้อย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้โรงแรมของคุณเป็นที่รู้จักและประสบความสำเร็จได้ในที่สุด #บริหารโรงแรม เพิ่มยอดจองโรงแรม
หากคุณต้องการคำแนะนำหรือความช่วยเหลือเพิ่มเติมในการพัฒนากลยุทธ์ Direct Booking สำหรับโรงแรมของคุณ สามารถเรับคำแนะนำและบริการที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ ได้ที่ Hotel Plus ของเราได้เลย
Comments